อังคาร 06 เม.ย. 2021 14:08
ผมใช้เปลนอนป่ามาหลายปีแล้วใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นที่โมโกจูที่ชาวเดินป่าต้องไปให้ได้ หรือล่าสุดที่ไปภูสอยดาวครั้งที่ 3 (โดนภายุเข้าวันไปต้นไม้ใหญ่ล้มจนมีคนบาดเจ็บสาหัส 2 ราย) ทุกครั้งที่ใช้เปลผมจะเลือกต้นไม้ที่ไม่ใหญ่มากต้นไม่สูงเวลาลมพัดก็ไม่ค่อยรับลมมาก กิ่งมั่นคงไม่มีกิ่งที่มีความเสี่ยงหักมาทับเราเพราะประสบการณ์จากที่เคยเห็นกิ่งไม้หล่นใส่เต็นท์ที่ภูกระดึง อย่างที่ภูสอยดาวผมผูกเปลห่างจากเต็นท์เพื่อนๆมากเพราะผมจะต้องเลือกจุดที่โล่งต้นไม้ใหญ๋ไม่ล้มทับ แต่ผมท้องเสียอย่างรุนแรงถ่ายไป 7 รอบเพื่อนๆจึงชวนผมเข้าไปนอนเต็นท์ด้วยเพราะกลัวผมจะเป็นอันตราย ต้นไม้ล้มทับพี่คนนีงที่เมื่อตอนเย็นยังคุยทักทายกันอยู่เลย
ข้อดีคือไม่ต้องนอนกับใคร น้ำไม่อาบหลายๆวัน ตีนเหม็นก็ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องนอนฟังเสียงใครกรนให้ฟังด้วย ลุกเข้าออกไปห้องน้ำก็ไม่ต้องกลัวเพื่อนตื่น
ข้อเสียของการนอนเปลก็น่าจะเป็นกระเป๋าเดินป่าของเราต้องวางไว้บนดินนอกเปล ผมจะพกถุงพลาสติกใบใหญ๋ 2 ใบไปด้วยทุกครั้ง ใบแรกเอากระเป๋าใส่เข้าไปก่อนเพื่อกันพื้นเปียกแล้วเอาใบที่ 2 คุลมทับด้านบนอีกครั้งกันฝนเข้า จากนั้นเอาเชือกมัดกันสัตว์เลื้อยเข้าไป ถ้าลืมเอาของก็ลำบากหน่อยต้องรื้อกันใหม่ กับหากอากาศหนาวมากๆเวลาลมพัดจะเย็นหลัง ต้องห้ามลืมถุงนอนเป็นอันขาด (ตอนไปโมโกจูไม่ได้เอาไปเพราะคิดว่าเสื้อกันหนาวตัวเก่งที่ไปด้วยกันมาหลายประเทศจะเอาอยู่ ดีที่ยังมีผ้าห่มฉุกเฉินที่ซื้อติดกระเป๋าไว้หลายปีจนลืมนึกได้งัดมาแก้ขัดกันไป) อีกอย่างคือเราจะเหมือนพวกสันโดดเพราะจะต้องหาที่ผูกเปลที่เหมาะสมซึ่งก็จะเป็นพื้นที่ที่เพื่อนๆเราอาจจะไม่สามารถกางเต็นท์ใกล้ได้ ต้องเดินไปหาเพื่อนๆแทน ราคาเปลก็สูงหน่อยราคาเกินครึ่งหมื่นไปประมาณนึงแต่ก็กันแมลง กันยุง กันฝนตกหนักๆได้ดี แถมอายุการใช้งานก็นานมาก อย่างของผมก็เกือบจะ 10 ปีแล้วชิ้นส่วนเปลก็ยังสมบูรณ์ดีอยู่ ไม่เหมือนเต็นท์ที่พอ 3-4 ปีก็เจอปัญหากันซึมเสื่อมสภาพ